ไขข้อสงสัย ทำไม PU ถึงกันซึมได้ดี?

ไขข้อสงสัย ทำไม PU ถึงกันซึมได้ดี?

 

PU Waterproof หรือที่รู้จักกันในชื่อ โพลียูรีเทนกันซึม เป็นหนึ่งในวัสดุกันซึมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในวงการก่อสร้าง ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่สามารถป้องกันน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า ทำไม PU ถึงกันซึมได้ดี? บทความนี้จะพาคุณไปไขข้อสงสัย พร้อมอธิบายชนิดของ PU และการใช้งานที่เหมาะสมอย่างละเอียด

จุดเด่นของ PU ที่ทำให้กันซึมได้ดี

ยืดหยุ่นสูง (High Elasticity)
PU สามารถยืดตัวได้มากถึง 300–600% โดยไม่ขาดหรือแตกร้าว จึงสามารถรองรับการเคลื่อนตัวของโครงสร้างอาคารได้อย่างดี เช่น การยืดหดตัวจากอุณหภูมิหรือแรงสั่นสะเทือน

ไร้รอยต่อ (Seamless Membrane)
เมื่อแห้งตัวแล้ว PU จะกลายเป็นฟิล์มต่อเนื่องไม่มีรอยต่อ ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดรอยรั่วตามแนวต่อหรือรอยเชื่อมวัสดุ

ยึดเกาะพื้นผิวดี (Excellent Adhesion)
PU สามารถยึดเกาะกับพื้นผิวหลายชนิด เช่น คอนกรีต เหล็ก ไม้ หรือเซรามิก แม้พื้นผิวนั้นจะมีความชื้นเล็กน้อย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำแทรกซึมจากรอยต่อต่างๆ

ทน UV และสภาพอากาศ (UV & Weather Resistant)
สูตร PU สำหรับภายนอกมักมีการเติมสารที่ช่วยให้ทนต่อแสงแดด รังสียูวี และฝนฟ้าได้ดี จึงใช้งานกลางแจ้งได้โดยไม่เสื่อมสภาพง่าย

ซ่อมแซมง่าย และใช้งานได้ทั้งภายใน–ภายนอก
สามารถซ่อมเฉพาะจุดได้โดยไม่ต้องรื้อระบบเดิมทั้งหมด และใช้งานได้ทั้งพื้นที่แห้ง (Dry Area) และพื้นที่เปียก (Wet Area)

 


 

PU Waterproof มีกี่แบบ? แตกต่างกันอย่างไร?

PU Waterproof สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลักตามลักษณะการใช้งาน ได้แก่:

1. PU ชนิดทา (Liquid-Applied PU Waterproofing)

ลักษณะ: เป็นของเหลวข้น เมื่อทาลงบนพื้นผิวแล้วจะแห้งตัวกลายเป็นแผ่นฟิล์มไร้รอยต่อ

ข้อดี:

ยืดหยุ่นสูงมาก รับการขยับของโครงสร้างได้ดี

ป้องกันน้ำได้ 100% เมื่อเคลือบหนาตามสเปก

ไร้รอยต่อ ลดโอกาสเกิดจุดรั่ว

ใช้งานได้กับพื้นผิวซับซ้อน เช่น มุม โค้ง หรือรอยต่อ

ข้อเสีย:

ต้องอาศัยช่างที่มีความชำนาญในการลงชั้นให้สม่ำเสมอ

ต้องรอเวลาการแห้งของแต่ละชั้นก่อนลงชั้นถัดไป

ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการเปิดใช้งานเร็ว

เหมาะกับ: ดาดฟ้า, หลังคา, พื้นห้องน้ำ, ผนังอาคาร, ถังเก็บน้ำ

 

2. PU ชนิดฉีด (PU Foam Injection / PU Grouting)

ลักษณะ: เป็น PU แบบ 2 ส่วนผสมที่ขยายตัวได้ เมื่อฉีดเข้าไปในรอยร้าวหรือโพรง จะขยายตัวและแข็งตัวเพื่ออุดรอยรั่วซึม

ข้อดี:

           เหมาะสำหรับงานซ่อมเฉพาะจุดที่มีรอยรั่วซึม

           ขยายตัวเร็ว อุดโพรงและรอยแตกได้แม่นยำ

           ใช้งานง่าย ไม่ต้องรื้อพื้นหรือโครงสร้าง

ข้อเสีย:

           ไม่เหมาะเป็นระบบกันซึมหลัก ใช้เฉพาะในงานแก้ไข

           หากรอยรั่วใหญ่หรือซับซ้อน อาจต้องฉีดหลายรอบ

           ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะ (เครื่องฉีดแรงดัน)

เหมาะกับ: ฐานราก, ผนังใต้ดิน, อุโมงค์, ห้องใต้ดิน, บ่อพัก

 

3. PU แบบแผ่นสำเร็จ (PU Sheet Waterproofing)

ลักษณะ:
แผ่น PU ที่ผลิตสำเร็จจากโรงงาน นำมาติดตั้งโดยการรีดหรือติดกาวลงบนพื้นผิว

ข้อดี:

           ความหนาสม่ำเสมอทั้งแผ่น

           ติดตั้งได้เร็ว ไม่ต้องรอชั้นแห้ง

           ควบคุมคุณภาพได้ง่าย เพราะผลิตจากโรงงาน

ข้อเสีย:

           มีรอยต่อระหว่างแผ่น ต้องซีลให้ดี

           ไม่ยืดหยุ่นมากเท่าชนิดทา

           ไม่เหมาะกับพื้นผิวซับซ้อนหรือมีมุมเยอะ

เหมาะกับ: พื้นเรียบขนาดใหญ่, พื้นโรงงาน, บ่อเก็บน้ำ, พื้นดาดฟ้า

 

สรุปตารางเปรียบเทียบแบบเข้าใจง่าย

ประเภท PU

ลักษณะการใช้งาน

ข้อดี

ข้อเสีย

ชนิดทา

ทาลงผิวโดยตรง

ยืดหยุ่น ไร้รอยต่อ

ต้องรอแห้ง, ต้องทาหลายชั้น

ชนิดฉีด

ฉีดเข้าโพรงหรือรอยร้าว

ซ่อมจุดรั่วได้ตรงจุด

ไม่ใช่ระบบกันซึมหลัก

แบบแผ่น

ติดตั้งเป็นแผ่นสำเร็จ

ติดตั้งเร็ว, หนาสม่ำเสมอ

มีรอยต่อ ไม่เหมาะกับพื้นที่โค้งงอ

สรุป

PU Waterproof ไม่ได้เป็นแค่วัสดุเคลือบกันน้ำธรรมดา แต่เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยคุณสมบัติ ยืดหยุ่น ไร้รอยต่อ ยึดเกาะดี และใช้งานได้หลากหลาย เหมาะทั้งงานใหม่และงานซ่อมแซม จึงเป็นเหตุผลที่ PU จะเป็นคำตอบของปัญหาการรั่วซึมในอาคาร

หมดปัญหาน้ำรั่ว ดาดฟ้าซึม พื้นชื้น!
บริษัท เอ็นเค ฟลอร์ อินโนเวชั่น จำกัด ให้บริการติดตั้งและเคลือบพื้น Epoxy และ พื้น PU (Polyurethane) ที่จะเปลี่ยนพื้นที่ของคุณให้มีความทนทาน สวยงาม เรามีทีมงานที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการติดตั้งพื้นทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นพื้นโรงงาน พื้นที่ทำงาน หรือพื้นบ้าน

ติดต่อวันนี้ สอบถาม ดูหน้างานฟรี: 

โทร: 091-779-9214 (คุณนี)

email : nkfloorinnovation@gmail.com

LINE: @epoxy-nk หรือ nee-kran


Visitors: 459,704