การทำพื้น Epoxy และ PU กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในโรงงานอุตสาหกรรม โกดัง ห้องเย็น พื้นเชิงพาณิชย์ ไปจนถึงบ้านพักอาศัย เนื่องจากพื้นอีพ็อกซี่หรือพื้นพียูมีความแข็งแรง ทนทาน ทำความสะอาดง่าย และช่วยเพิ่มมาตรฐานงานผลิตได้ แต่ก่อนที่จะเริ่มต้นทำพื้นใหม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การประเมินพื้นที่หน้างานเบื้องต้น ซึ่งคุณสามารถทำได้เองง่ายๆ ไม่ต้องรอช่างเข้าดูพื้นที่

             บทความนี้จะแนะนำวิธีประเมินพื้นที่ เพื่อให้คุณรู้สภาพหน้างานคร่าวๆ และยังช่วยให้สามารถขอ ใบเสนอราคา (Quotation) ได้แม่นยำยิ่งขึ้น 

ทำไมควรประเมินหน้างานก่อนทำพื้น Epoxy / PU?

1. ช่วยให้เลือกประเภทระบบพื้นได้เหมาะสมกับการใช้งาน

2. ลดปัญหาค่าใช้จ่ายบานปลายจากการซ่อมพื้นหรือปรับสภาพผิว

3. ทำให้ผู้รับเหมาประเมินหน้างานได้เร็วขึ้น และเสนอราคาได้ตรงจุด

4. วางแผนการปิดพื้นที่ได้ง่ายขึ้น

5 ขั้นตอนประเมินพื้นที่ก่อนทำ Epoxy / PU ด้วยตัวเอง

1) วัดขนาดพื้นที่ (ตร.ม.)

             เริ่มจากการวัดขนาดพื้นที่ด้วยตลับเมตรหรือเครื่องเลเซอร์ โดยวัดความกว้างและความยาวของพื้นที่จริง หากพื้นที่มีหลายส่วนให้แบ่งวัดทีละโซนแล้วคำนวณรวมกัน ขนาดพื้นที่ถือเป็นข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับการคำนวณราคา และควรถ่ายภาพพื้นที่มุมกว้างประกอบไว้ด้วยเพื่อให้ทีมงานประเมินได้ง่ายขึ้น

2) ตรวจสภาพพื้นเดิม

             การเดินตรวจสภาพพื้นเดิมจะช่วยให้ทราบว่าพื้นมีความพร้อมสำหรับการทำ Epoxy หรือ PU มากน้อยเพียงใด ให้สังเกตว่ามีรอยแตก หลุม พื้นโก่ง มีคราบน้ำมัน น้ำซึม หรือความชื้นหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบว่าวัสดุปูพื้นเดิมเป็นกระเบื้อง สีเก่า หรือคอนกรีตเปลือย ซึ่งหากพื้นเดิมเสียหายมากอาจต้องมีการซ่อมหรือปรับผิวก่อนลงงานจริง

3) เช็คความชื้นของพื้น

             ความชื้นเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อการยึดเกาะของ Epoxy และ PU หากพื้นมีความชื้นสูงอาจทำให้เกิดการพองหรือหลุดล่อนในอนาคต สามารถตรวจสอบได้ง่ายๆ โดยการนำพลาสติกใสแปะกับพื้นทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง พื้นคอนกรีตที่มีความชื้น จะคายไอน้ำออกมาอยู่ตลอด หากมีการปิดผิวพื้นด้วยพลาสติกสนิทๆ ไอน้ำที่ระเหยออกจากคอนกรีตจะติดค้างอยู่ใต้แผ่นพลาสติก หากหลังจากแกะพลาสติกพบว่ามีไอน้ำติดอยู่ด้านใน แสดงว่าพื้นยังมีความชื้นสูงและควรแก้ไขก่อนเริ่มทำพื้น 

             ก็ตาม ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบค่าความชื้นอีกครั้งด้วยเครื่องวัดความชื้นเฉพาะทาง (Moisture Meter) เพื่อยืนยันผลและประเมินความพร้อมของพื้นก่อนเริ่มงานจริง 

4) ตรวจความเรียบของพื้น

             การตรวจความเรียบของพื้นสามารถทำได้โดยใช้ไม้ยาวหรือสเตรทเอดวางลงบนผิวพื้น หากพบว่ามีช่องว่างใต้ไม้ แสดงว่าพื้นมีลักษณะแอ่นหรือเป็นแอ่งน้ำ ซึ่งอาจส่งผลต่อความหนาและความสวยงามของระบบพื้น โดยเฉพาะงาน Epoxy Self-leveling หรือ PU ที่ต้องการผิวเรียบสม่ำเสมอ พื้นในลักษณะนี้ควรได้รับการปรับระดับก่อนเริ่มงาน

5) เช็กสภาพแวดล้อมรอบพื้นที่

             สุดท้ายคือการดูสภาพแวดล้อมโดยรอบว่ามีสิ่งของที่ต้องเคลื่อนย้ายหรือไม่ สามารถปิดพื้นที่ได้กี่วัน มีงานช่างอื่นทำอยู่ในพื้นที่ด้วยหรือเปล่า และพื้นที่เป็นงานในอาคารหรือกลางแจ้ง การประเมินส่วนนี้ช่วยให้ทีมงานสามารถวางแผนการทำงานได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัยที่สุด

มื่อคุณประเมินพื้นที่เบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว สามารถส่งข้อมูลต่อไปนี้ให้บริษัทเราเพื่อออก ใบเสนอราคาเบื้องต้น ได้เลย

สรุป

             การประเมินพื้นที่ก่อนทำพื้น Epoxy หรือ PU สามารถทำได้ง่ายๆ และช่วยลดปัญหาในภายหลังได้มาก ตั้งแต่การวัดพื้นที่ ตรวจสภาพพื้นเดิม ความชื้น ความเรียบ ไปจนถึงการประเมินสภาพรอบพื้นที่ เมื่อประเมินเสร็จแล้วสามารถส่งข้อมูลเพื่อขอใบเสนอราคากับบริษัทรับทำพื้นได้ทันที หรือหากไม่สะดวกหรือต้องการความแม่นยำมากขึ้น ทีมงานของเรา บริษัท เอ็นเค ฟลอร์ อินโนเวชั่น จำกัด พร้อมเข้าไปประเมินหน้างานให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อช่วยให้คุณได้ระบบพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุด

บริษัท เอ็นเค ฟลอร์ อินโนเวชั่น จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตั้งและเคลือบพื้น Epoxy และพื้น PU (Polyurethane) เปลี่ยนพื้นที่ของคุณให้แข็งแรง ทนทาน และสวยงาม ด้วยทีมงานมืออาชีพพร้อมให้บริการทั้งในโรงงาน พื้นที่ทำงาน อาคารพาณิชย์ และที่พักอาศัย

ติดตั้งโดยทีมงานมืออาชีพ

ยินดีให้คำปรึกษาและสำรวจหน้างานฟรี

ออกแบบติดตั้งฟรี งานได้มาตรฐาน รับน้ำหนักได้กว่า 10 ตัน

ทีมงานมืออาชีพ ประสานงานดี ทำงานเป็นทีม คุมหน้างานทุกโครงการ

ไม่เคยทิ้งงาน มีความรับผิดชอบสูง ราคายุติธรรม ไม่ลดสเปก

ทำงานรวดเร็ว คุณภาพสูง พร้อมรีพอร์ตหลังจบงาน

รับงานทั่วประเทศ ทีมงานไม่ต่ำกว่า 7 คน

ติดต่อวันนี้ สอบถาม ดูหน้างานฟรี: 

โทร: 091-779-9214 (คุณนี)

email : nkfloorinnovation@gmail.com 

LINE: @epoxy-nk หรือ nee-kran